หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

RATCHกจจา


ราชบุรีโฮลดิ้ง กำไร 1,161 ล้านบาทก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน รายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมทุนเพิ่มขึ้น 61%           

     บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) รายงาน ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2561 มีกำไรก่อนผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 1,160.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 2560 และมีกำไรหลังผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงิน 817 ล้านบาท ลดลง 40% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2560 อย่างไรก็ตาม รายได้ส่วนแบ่งกำไรกิจการร่วมค้าในไตรมาสนี้ เป็นจำนวน 846 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 61% ซึ่งเป็นผลจากโรงไฟฟ้าหงสาที่มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น สำหรับกำลังผลิตเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในปีนี้ บริษัทฯ จะรับรู้เพิ่มขึ้นรวม 222.95 เมกะวัตต์ จากโครงการพลังงานลมเมาท์เอเมอรัลด์ กำลังผลิตติดตั้ง 180.45 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คอลลินสวิลล์ กำลังผลิตติดตั้ง 42.5 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ในออสเตรเลียทั้งสองแห่ง  

      นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินงานที่ผ่านมายังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าหงสา ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเครื่องได้ถึง 91% ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 83% โดยรายได้ส่วนแบ่งกำไรที่รับรู้จากโรงไฟฟ้าแห่งนี้เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วส่วนรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรี ซึ่งเป็นสินทรัพย์หลักของบริษัทฯ ปรับลดลงตามอัตราค่าความพร้อมจ่ายต่อหน่วยไฟฟ้าที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าให้สามารถผลิตไฟฟ้าจำหน่ายได้ครบถ้วนตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า พร้อมทั้งบริหารต้นทุนการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และติดตามโรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างให้สามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนดเป้าหมาย                

     “โครงการพลังงานแสงอาทิตย์คอลลินสวิลล์ และโครงการพลังงานลมเมาท์เอเมอรัลด์ ในออสเตรเลีย มีกำหนดจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือนกรกฎาคม และเดือนพฤศจิกายน ในปีนี้ ตามลำดับ ซึ่งจะเสริมรายได้ของบริษัทฯให้แข็งแกร่งขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้บริหารต้นทุนทางการเงินด้วยการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ มูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ต่อปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 จำหน่ายในต่างประเทศ โดยเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นกู้จะนำซื้อคืนหุ้นกู้ชุดเดิมและเงินคงเหลือจะใช้เพื่อการลงทุนของบริษัทฯ ในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ซื้อหุ้นของบริษัท ราช-ออสเตรเลีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิมอีก 20% ทำให้บริษัทฯ ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว 100% และรับรู้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นอีก 173.27 เมกะวัตต์ ผลักดันให้กำลังผลิตรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 7,552 เมกะวัตต์  

         สำหรับ การลงทุน บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายกำลังผลิตให้ได้ 850 เมกะวัตต์ โดยในประเทศได้มุ่งเน้นที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้า ส่วนต่างประเทศ มุ่งเน้นที่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งโครงการประเภทเชื้อเพลิงฟอสซิล และพลังงานทดแทน ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้าและพลังงานอื่นๆ โดยบริษัทฯ ได้เตรียมเงินเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ไว้ราว 15,000 ล้านบาท” นายกิจจา กล่าว

        ฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 98,096.58 ล้านบาท หนี้สินจำนวน 35,246.96 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 62,849.62 ล้านบาท มีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราว รวมจำนวน 13,735.40 ล้านบาท และกำไรสะสมจำนวน 52,268.54 ล้านบาท

       ปัจจุบัน บริษัทฯ มีกำลังผลิตตามสัดส่วนรวม 7,552.4 เมกะวัตต์เทียบเท่า ประกอบด้วย กำลังผลิตที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 6,624.19 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา รวม 928.21 เมกะวัตต์เทียบเท่า จากฐานการลงทุนใน 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย 5,187.21 เมกะวัตต์เทียบเท่า สปป.ลาว 1,121.81 เมกะวัตต์ ออสเตรเลีย 866.35 เมกะวัตต์ จีน 236 เมกะวัตต์ และอินโดนีเซีย 141.03 เมกะวัตต์       

 

Click Donate Support Web

bestchangeBIT FUN728x90

yobit 560 60

8

468x60 bit

468x60 DOG

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!