หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 17


ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร 'บ. กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส' ที่ 'A-' แนวโน้ม 'Stable'

        ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรระดับ 'A-' ของ บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างยั่งยืน ความได้เปรียบในการแข่งขันจากความร่วมมือทางธุรกิจจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง ความสามารถในการรักษาสถานะทางการตลาด ภาระหนี้ที่ต่ำ และสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัท อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกจำกัดด้วยการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมรถเช่าซึ่งยังคงสร้างแรงกดดันต่อผลประกอบการและแผนการขยายธุรกิจของบริษัท

 

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

        ทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทจะยังคงดำรงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งไว้ได้ เนื่องจากบริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขันจากการได้รับความร่วมมือทางธุรกิจจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง ผลประกอบการของบริษัทสามารถพิสูจน์ได้จากกำไรสุทธิซึ่งอยู่ในระดับ 200-400 ล้านบาทตลอด 10 ปีที่ผ่านมาแม้ว่าราคารถยนต์มือสองจะลดลงอย่างมากในช่วงปี 2557-2558

        ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลประโยชน์ทางภาษีซึ่งมีส่วนช่วยให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถัวเฉลี่ยของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 7.1% ในปี 2560 เทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 1.1% อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถัวเฉลี่ยแบบปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปีของบริษัทลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 จาก 7.1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 จากการลดลงของจำนวนรถหมดสัญญาที่ขายออกไป อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถัวเฉลี่ยของบริษัทในปี 2559-2560 อยู่ในระดับสูงเนื่องจากมีการขายรถหมดสัญญาในจำนวนที่มากกว่าปกติ ทริสเรทติ้งประมาณการอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ถัวเฉลี่ยของบริษัทจะอยู่ที่ระดับ 5.5%-6.0% ในปี 2561-2564 จากสมมติฐานที่ว่าจำนวนรถหมดสัญญาขายจะกลับสู่ระดับปกติ

 

ความได้เปรียบในการแข่งขันจากความร่วมมือทางธุรกิจจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง

        ทริสเรทติ้ง คาดว่า บริษัทจะยังคงดำรงความได้เปรียบในการแข่งขันจากความร่วมมือทางธุรกิจจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง บริษัทมีต้นทุนในการซื้อรถใหม่ที่ต่ำกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเนื่องจากบริษัทจัดซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ให้เช่าในจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรถทั้งหมดจากตัวแทนจำหน่ายซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท (ตระกูลจันทรเสรีกุล) เป็นเจ้าของ อีกทั้งบริษัทยังเป็นเจ้าของศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์หลายแห่งซึ่งช่วยลดรายจ่ายค่าซ่อมบำรุงที่ไม่จำเป็นลงได้อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมีแนวโน้มที่จะยังคงรับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์ให้เช่าที่หมดอายุสัญญาเนื่องจากบริษัทขายสินทรัพย์ดังกล่าวกว่า 90% โดยเฉลี่ยให้กับลูกค้ารายย่อยผ่านทางบริษัท กรุงไทย ออโตโมบิล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายรถมือสองที่เป็นบริษัทลูก ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถขายรถหมดสัญญาเช่าได้ในราคาที่สูงและได้กำไรที่มากกว่าเมื่อเทียบกับการขายผ่านช่องทางอื่น เช่น การประมูล

 

การรักษาสถานะทางการตลาด

         บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 3,843 ล้านบาทในปี 2560 จาก 3,097 ล้านบาทในปี 2558 แม้ว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถเช่าจะรุนแรง บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 5.6% ในปี 2560 ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 จากฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทมีนโยบายมุ่งเน้นคุณภาพในการให้บริการเพื่อรักษาฐานลูกค้าและมุ่งเน้นที่ผลประกอบการที่ดีพร้อมทั้งรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตของสินทรัพย์ คุณภาพของสินทรัพย์ และผลการดำเนินธุรกิจที่แข็งแรง

 

ภาระหนี้ที่ต่ำ

         ทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทจะยังคงดำรงภาระหนี้ที่ต่ำ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ระดับ 1.0-1.5 เท่า ในปี 2561-2564 บริษัทเริ่มออกหุ้นกู้ในปี 2560 เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมจากการพึ่งพาเงินสินเชื่อจากธนาคารและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ภายใต้สัญญาเช่าซื้อ บริษัทมีเงินกู้ยืมรวมเพิ่มเป็น 2,836 ล้านบาทในปี 2560 จาก 2,523 ล้านบาทในปี 2559 แม้ว่าเงินกู้ยืมจะเพิ่มสูงขึ้นอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยอยู่ที่ 1.5 เท่า ในปี 2560 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ 58.5% ในปี 2560 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 81.3% โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 2,014 ล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าฐานเงินทุนของบริษัทจะยังเพียงพอต่อการขยายธุรกิจในอนาคต

 

สภาพคล่องที่เพียงพอ

      บริษัทมีโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินที่เหมาะสมซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาขาดสภาพคล่องเนื่องจากบริษัทบริหารระยะเวลาของเงินกู้ยืมโดยเฉพาะระยะเวลาของเงินกู้ยืมภายใต้สัญญาเช่าซื้อและหุ้นกู้ให้สอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาเช่าซึ่งส่วนใหญ่นาน 3-4 ปี โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นต่อเงินกู้ยืมรวมอยู่ที่ 19.9% ต่ำกว่าระดับ 49.0% ในปี 2560

     บริษัทยังมีความยืดหยุ่นทางการเงินเนื่องจากบริษัทเริ่มพึ่งพาการกู้ยืมแบบมีหลักประกันภายใต้สัญญาเช่าซื้อที่น้อยลง ส่งผลให้บริษัทมีสินทรัพย์สภาพคล่องที่ไม่มีภาระผูกพันเพิ่มขึ้นหากเกิดปัญหาสภาพคล่อง สัดส่วนเงินกู้ยืมภายใต้สัญญาเช่าซื้อต่อเงินกู้ยืมรวมของบริษัทปรับตัวลดลงต่อเนื่องและคิดเป็นสัดส่วน 9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 จาก 56% ในปี 2558 นอกจากบริษัทมีรถที่ไม่มีภาระผูกพันเป็นแหล่งสภาพคล่องแล้ว บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่งและยังสามารถระดมทุนได้ทั้งจากตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้อีกด้วย

 

แนวโน้มอันดับเครดิต

        แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable'หรือ 'คงที่'ของบริษัทสะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสามารถดำรงสถานะทางธุรกิจและการเงิน รวมถึงสามารถรักษาฐานลูกค้าหลักกลุ่มเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ รวมถึงมีผลประกอบการที่น่าพอใจด้วย

 

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

        อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากสถานะทางธุรกิจของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่สถานะทางการเงินคงตัว ในทางกลับกัน สถานะเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับลดลงหากสถานะทางธุรกิจของบริษัทเสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือหากผลประกอบการหรือภาระ

 

บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน) (KCAR)

อันดับเครดิตองค์กร:       A-

แนวโน้มอันดับเครดิต:     Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

           บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

         ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!