หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

BCPชยวฒน โควาวสารช


BCP ทุ่มงบลงทุนปี 62-65 ที่ 7.7 หมื่นลบ. ขยายกำลังการผลิตโรงกลั่น

    นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงาน บัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยในงานแถลงแผนธุรกิจปี 62-65 ระบุ ตั้งเป้า EBITDA ปี 66 สูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากรุกธุรกิจนอนออยล์-ต่างประเทศเพิ่ม พร้อมวางงบลงทุนปี 62-65 ที่ 7.7 หมื่นล้านบาท ขยายกำลังการผลิตโรงกลั่น ปี 62 แตะ 1.15 แสนบาร์เรล/วัน สูงกว่าปี 61 เหตุไร้แผนซ่อมบำรุง ส่วนปลายปีนี้-ต้นปีหน้า เล็งออกหุ้นกู้ 5 พันล้านบาท รองรับขยายธุรกิจ

     ภาพรวมธุรกิจในปี 62 บริษัทคาดว่ากำลังการผลิตจะอยู่ที่ 1.15 แสนบาร์เรลต่อวัน โดยถือว่าสูงสุดในประวัติการณ์ เนื่องจากบริษัทไม่มีแผนปิดซ่อมโรงกลั่น ส่วนค่าการกลั่นคาดว่าในไตรมา4/61 จะทรงตัวจากไตรมาส 3/61 ที่ทำได้ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบคาดว่าจะอยู่ที่ 70-75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และสิ้นปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

      ส่วนการนำบริษัทย่อย "บีบีจีไอ" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) คาดว่า ในช่วงปี 62 เนื่องจากภาวะตลาดยังคงผันผวน อาจจะส่งผลต่อมูลค่าการระดมทุน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติไฟลิ่งจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต)

      กรณี International Maritime Organization (IMO) เปลี่ยนมาตรฐานสัดส่วนกำมะถันในน้ำมันเตาในปี 63 บริษัทคาดว่าจะเป็นผลดีแก่บริษัทเนื่องจากธุรกิจเดินเรือเพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำมันดีเซลในการเดินเรือมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการกลั่นน้ำมันดีเซลและน้ำมันท่าอากาศยาน อยู่ที่มากกว่า 65%

     ในปี 65 บริษัทมีเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจต่างประเทศ เป็น 10% และเพิ่มสัดส่วนรายได้ในธุรกิจ Non-oil และ Lube เป็น 30% ซึ่งจะช่วยหนุน กำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย, ภาษี, ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าปี 66 EBITDA จะเติบโตเป็น 2 เท่า หรือมากกว่า 30,000 ล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 18% จากสิ้นเดือน ก.ย.นี้ อยู่ที่ 16.5% ขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาด และเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้แนวคิดสถานีบริการ Greenovative Experience

      แผนธุรกิจใน 4 ปีข้างหน้า (62-65) บริษัทมีแผนลงทุน 77,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่มบริษัทภายใต้การขยายการลงทุนในธุรกิจสีเขียว โดยเน้นการขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และธุรกิจต้นน้ำ บนความเข้มแข็งของ 4 กลไกขับเคลื่อนธุรกิจบางจากฯ ทั้งธุรกิจโรงกลั่น ธุรกิจการตลาด ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน การกู้ยืมจากสถาบันทางการเงิน จากปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.7-0.8 เท่า จะคุมไม่ให้เกิน 1 เท่า และขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ราว 5 พันล้านบาทในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ หรือ ใน ม.ค.62 เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ

      ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการกลั่นแตะ 135,000 บาร์เรล/วัน ในปี 63 จาก ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน ควบคู่กับการลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น YES-R Project และโครงการ 3E (Efficiency, Energy, and Environment Improvement) รวมทั้งลดการใช้พลังงานเพื่อมุ่งมั่นเป็นโรงกลั่นสีเขียวที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมขยายธุรกิจ Trading ทั้งการซื้อขายน้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป เชื้อเพลิงชีวภาพและแร่ลิเทียม ซึ่งมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นในอนาคต

     ด้านกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มีกำลังการผลิตไบโอดีเซลและเอทานอลรวม 1.8 ล้านลิตรต่อวัน นับเป็นธุรกิจและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะมีการจัดตั้ง Bio Hub ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้ยุทธศาสตร์ ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง ทั้งด้านไบโอพลาสติก วัสดุชีวภาพ น้ำตาล Generation ที่ 2 และโปรตีนชีวภาพ ก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชีวภาพซึ่งคาดว่าจะสรุปการลงทุนได้ในปีนี้ถึงปี 62

    กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ ที่บริษัทถือหุ้นเป็นอันดับ 2 ใน Lithium Americas Corp. มีกำลังการผลิตในเฟสที่ 1 ปริมาณ 25,000 ตันต่อปี และสามารถขยายกำลังการผลิตได้ถึง 50,000 ตันต่อปี ซึ่งปัจจุบันได้รับสิทธิ์ในการจำหน่าย หรือนำไปป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับโรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมตามแผนการลงทุนของบริษัท ทั้งนี้ ปริมาณแร่ลิเทียมดังกล่าวเพียงพอสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้จำนวน 62,500 คันต่อปี

     ส่วนการมุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจต้นน้ำที่บริหารโดยบริษัท OKEA ประเทศนอร์เวย์ กำลังการผลิต 25,000 บาร์เรลต่อวัน คาดว่าจะมี EBITDA จากการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ หรือ เพิ่มเป็น10 เท่า จากการหาแหล่งน้ำมันดิบและพลังงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างขั้นตอนซื้อขายหุ้นบริษัท OKEA เพิ่มเติม หลังจากที่รัฐบาลประเทศนอร์เวย์ได้อนุมัติแล้ว คาดว่าภายในเดือน ธ.ค. นี้จะสามารถเข้าไปถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 49%ได้

      ขณะที่บริษัทย่อยมีแผนขายหุ้น Nido Production (Galoc)Pty. Ltd. (NPG) ที่ถือครองแหล่งน้ำมันดิบ Galoc ในฟิลิปปินส์ มูลค่าประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/62

     บริษัทยังมีความสนใจการลงทุนการนำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น การพัฒนากระบวนการซ่อมบำรุงโรงกลั่นและการบริหารจัดการการขนส่งน้ำมัน และใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) วิเคราะห์ข้อมูลจากระบบเก็บฐานข้อมูล (Big Data) มาพัฒนางานบริการและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า สร้าง Brand Loyalty และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านการบริการ ซึ่งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ หรือ BiiC จึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมโดยมีแผนจัดทำ Corporate Venture Capital (CVC) และการวิจัยพัฒนา เพื่อการลงทุนใน Startup ของบริษัท สร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในยุคที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทได้วางสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจหลักของบริษัทที่ 60%,ธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ 30% และเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจที่ 10% ตั้งเป้าที่จะจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา (IP) อย่างน้อย 2 รายการใน 4 ปีข้างหน้า

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

BCP เปิดแผนธุรกิจปี 62-65 วางงบลงทุน 7.7 หมื่นลบ.ตั้งเป้าดัน EBITDA โต 2 เท่า

       นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดแผนธุรกิจใน 4 ปีหข้างหน้า (62-65) บริษัทมีแผนลงทุน 77,000 ล้านบาทพัฒนาและขยายธุรกิจกลุ่ม BCP โดยตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) ให้เติบโตขึ้น 2 เท่า โดยในปี 66 คาดว่าจะมี EBITDA มากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเติบโตอย่างเท่าตัวอีกครั้งหนึ่งจากที่บริษัทเคยมี EBITDA มากกว่า 7 พันล้านบาทในปี 55 และเพิ่มเป็นประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทในปี 60 ภายใต้การขยายการลงทุนในธุรกิจสีเขียว

    ขณะที่กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน จากที่มีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 120,000 บาร์เรล/วันในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จึงมีแผนยกระดับเพิ่มกำลังการกลั่นให้ถึง 135,000 บาร์เรล/วันในปี 63 ควบคู่การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!