หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 10


ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตองค์กร'บ. ซีฟโก้' ที่'BBB-' แนวโน้ม 'Stable'

 

      ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตองค์กรให้แก่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'BBB-' โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของบริษัทในงานวิศวกรรมก่อสร้างฐานรากลึก (Deep Foundation Engineering) ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากผลงานและความสามารถที่เป็นที่ยอมรับ รวมทั้งความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทที่มีภาระหนี้อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากขอบเขตธุรกิจของบริษัทที่มีขนาดเล็กและเน้นเฉพาะงานเสาเข็ม ประกอบกับความอ่อนไหวของงานที่มีต่อวงจรธุรกิจรับเหมาก่อสร้างซึ่งจะกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทได้

 

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งในงานก่อสร้างฐานราก

       บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างฐานรากของประเทศไทย โดยบริษัทมีคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง อีกทั้งยังมีทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและมีเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถรับงานโครงการขนาดใหญ่เช่นงานก่อสร้างฐานรากที่มีขอบเขตกว้างขวางได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานเสาเข็มสำหรับอาคารสูงของภาคเอกชนและโครงการสาธารณูปโภคของภาครัฐ นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาเพียงไม่กี่รายที่สามารถก่อสร้างกำแพงป้องกันดิน (Diaphragm Wall) หรือ D-wall ซึ่งเป็นงานฐานรากที่สำคัญประเภทหนึ่งได้อีกด้วย

      ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทสั่งสมมาจากประสบการณ์ในการทำงานที่สำเร็จผลมาเป็นเวลายาวนานและความยืดหยุ่นของสถานะทางการเงิน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยให้บริษัทได้รับงานอย่างต่อเนื่องและชนะการประมูลงานใหม่อยู่เสมอ ประสบการณ์และทักษะช่วยให้บริษัทอยู่ในสถานะที่ดีกว่าผู้รับเหมาก่อสร้างงานฐานรากรายอื่น ๆ ในการดำเนินงานโครงการที่มีขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนมากกว่า บริษัทมีภาระหนี้ไม่มากซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินที่สูงกว่า ส่งผลให้ลูกค้าของบริษัทมีความมั่นใจว่าโครงการจะไม่ชะงักจากปัญหาทางด้านการเงินของผู้รับเหมาก่อสร้าง

     ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากนั้นมีผู้ประกอบการอยู่เป็นจำนวนมาก ทว่าบริษัทถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุดเมื่อพิจารณาจากรายได้และมูลค่าสินทรัพย์ โดยบริษัทมีส่วนแบ่งรายได้ของทั้งตลาดโดยเฉลี่ยที่ระดับ 30% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

 

ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ

     บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 เท่ากับ 1,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 45.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 อยู่ที่ 22.4% เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยที่ระดับ 17% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลเนื่องมาจากการมีอัตราส่วนกำไรที่สูงในโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและโครงการ One Bangkok

     จากมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog) ของบริษัท ประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 2,200-2,700 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2561-2564 ในขณะที่อัตราส่วนกำไรคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 19% โดยเฉลี่ย และเงินทุนจากการดำเนินงานจะอยู่ที่ประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อปี

      จากประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 600-700 ล้านบาทในปี 2561 เพื่อซื้อเครื่องจักรชุดใหม่สำหรับใช้ดำเนินโครงการในปัจจุบัน หลังจากนั้นเงินลงทุนจะลดลงเหลือประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2562-2564

 

ขนาดธุรกิจค่อนข้างเล็กและเน้นงานเฉพาะทาง

      ถึงแม้ว่า บริษัทจะมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในส่วนของเสาเข็ม แต่ทริสเรทติ้งก็มองว่าบริษัทมีสถานะทางธุรกิจในระดับปานกลาง โดยอันดับเครดิตของบริษัทมีข้อจำกัดค่อนข้างสูงจากการที่บริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดเล็กและมีขอบเขตงานที่ค่อนข้างแคบ ทั้งนี้ งานฐานรากเป็นเพียงงานส่วนเล็ก ๆ ในโครงการก่อสร้างซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3-6 เดือนในช่วงเริ่มโครงการ แต่เมื่อพิจารณาในด้านบวกแล้ว บริษัทสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงในส่วนของความล่าช้าของโครงการหรือต้นทุนที่เกินงบประมาณได้ด้วยเช่นกัน

        มูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบซึ่งส่วนใหญ่มีระยะเวลาเพียง 3-6 เดือนนั้นก็มีผลกระทบต่อรายได้ในอนาคตของบริษัท โดยมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบที่มีอายุสั้นจะกดดันให้บริษัทจำเป็นต้องหางานใหม่และเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในช่วงที่งานรับเหมาก่อสร้างชะลอตัว บริษัทจึงมีความพยายามที่จะเติบโตโดยการขยายงานไปในประเทศเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งไม่คาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากงานในต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญในระยะใกล้

       ทริสเรทติ้ง ยังคงมองแนวโน้มในเชิงบวกสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเนื่องมาจากนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐจำนวนมากที่กำลังจะเกิดขึ้นรวมถึงโครงการก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่ของภาคเอกชนด้วยเช่นกัน ในการนี้ บริษัทมีความพร้อมในการรับงานก่อสร้างฐานรากให้แก่ทั้ง 2 ภาคส่วน เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทชนะการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่จำนวนหลายโครงการซึ่งรวมถึงโครงการ One Bangkok ด้วย ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2561 บริษัทมีมูลค่าโครงการที่ยังไม่ส่งมอบอยู่ที่ 2,876 ล้านบาท ซึ่งมากพอที่จะรักษาฐานรายได้ของบริษัทในปี 2561 และปี 2562 ได้

 

มีความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

     บริษัทต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนในอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างโดยผลการดำเนินงานของบริษัทจะขึ้นอยู่กับสภาวะวงจรของอุตสาหกรรม เนื่องจากบริษัทไม่สามารถสร้างงานของตนเองได้ อีกทั้งความต้องการงานเสาเข็มขนาดใหญ่และงานกำแพงป้องกันดินก็ขึ้นอยู่กับงานก่อสร้างอาคารใหม่ ๆ ด้วย

    การประเมินอันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงความเสี่ยงอื่น ๆ จากอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างด้วย อาทิ ความเสี่ยงจากต้นทุนคงที่ในสัญญา การแข่งขันประมูลงาน ความพอเพียงของแรงงาน เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะลดทอนจุดแข็งของสถานะเครดิตของบริษัทลง

    ธุรกิจของบริษัทขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างภายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งการผูกติดอยู่กับอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างก็จะสร้างความอ่อนไหวตามวงจรอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก ผลที่ตามมาก็คือ สถานะทางการเงินของบริษัทจะมีความผันผวนและรายได้อาจจะไม่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว

 

ความยืดหยุ่นทางการเงินที่แข็งแกร่ง

     สถานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่งจากความสามารถในการทำกำไรที่น่าพอใจและภาระหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ ภายหลังจากที่บริษัทขาดทุนจากโครงการรับเหมาก่อสร้างงานด้านโยธาในปี 2553-2554 บริษัทจึงกลับมาเน้นงานรับเหมาก่อสร้างเฉพาะในส่วนของงานเสาเข็มขนาดใหญ่และงานก่อสร้างกำแพงป้องกันดินเป็นหลัก รายได้ของบริษัทจึงเริ่มดีขึ้น โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทเกือบทั้งหมดเติบโตจากงานรับเหมาก่อสร้างเสาเข็มขนาดใหญ่และงานกำแพงป้องกันดิน

      ภาระหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำช่วยให้บริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงิน กล่าวคือ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 18.61% ณ เดือนกันยายน 2561 โดยเพิ่มจาก 9.88% ณ สิ้นปี 2560 จากการใช้เงินลงทุนซื้อเครื่องจักรจำนวนมาก ถึงแม้ว่าภาระหนี้จะเพิ่มขึ้น แต่อัตราส่วนเงินกู้ยืมต่อทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับต่ำ ภาระหนี้ของบริษัทที่อยู่ระดับต่ำเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิตเนื่องจากบริษัทจะมีเงินสำรองบางส่วนที่ช่วยบรรเทาความรุนแรงในช่วงเวลาที่ขาดทุนได้ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานโครงการที่ล้มเหลวหรือภาวะอุตสาหกรรมที่ซบเซาเป็นเวลานานก็อาจส่งผลให้บริษัทใช้เวลาในการฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำของวงจรธุรกิจที่ยาวนานยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน

      ถึงแม้ว่า บริษัทจะมีการลงทุนจำนวนมากในปี 2561 แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับประมาณ 20%-23% ในช่วง 3 ปีข้างหน้าต่อไปได้ อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่ายคาดว่าจะอยู่ในช่วง 12-19 เท่า ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงโดยจะอยู่ในระดับต่ำสุดที่ประมาณ 70%

 

สภาพคล่องที่เพียงพอ

      บริษัทมีสภาพคล่องที่เพียงพอ ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2561 บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 223 ล้านบาทซึ่งประกอบด้วยเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 24 ล้านบาทและเงินกู้โครงการระยะยาวจำนวน 199 ล้านบาท ในขณะที่แหล่งเงินทุนของบริษัทประกอบด้วยเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 326 ล้านบาท นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาทอีกด้วย ซึ่งบริษัทน่าจะมีกระแสเงินสดที่เพียงพอต่อการชำระหนี้ในระยะใกล้นี้

 

แนวโน้มอันดับเครดิต

     แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ'คงที่'สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจงานก่อสร้างฐานรากเอาไว้ได้และจะสามารถประมูลงานใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อัตราส่วนกำไรโดยเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ในระดับประมาณ 19% และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ

 

ปัจจัย ที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

        อันดับเครดิตยังไม่มีแนวโน้มที่จะมีการปรับเพิ่มในอนาคตอันใกล้เนื่องจากขนาดธุรกิจของบริษัทที่ค่อนข้างเล็กและขอบเขตการดำเนินงานที่เน้นเฉพาะงานเสาเข็ม อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตจะมีการปรับเพิ่มขึ้นได้หากกระแสเงินสดของบริษัทปรับสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

      ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตก็อาจปรับลดลงได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทต่ำกว่าที่คาดไว้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจจะเกิดจากความล่าช้าในงานก่อสร้าง ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากโครงการล่าช้า หรือความล้มเหลวในการขยายงานรับเหมาก่อสร้างไปในต่างประเทศหรือการขยายสู่งานวิศวกรรมก่อสร้างด้านอื่นๆ

 

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 31 ตุลาคม 2550

บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) (SEAFCO)

อันดับเครดิตองค์กร:             BBB-

แนวโน้มอันดับเครดิต:           Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

      บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2561 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

    ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90SIAM790x90

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!